หากใครอยากจะลองเลาะลายแทงเสาะหาความอร่อยจากกาแฟหอมกรุ่นอันเลื่องชื่อในประเทศลาวล่ะก็ แน่นอนว่าจังหวัดปากเซ (Pakse) อาจจะเป็นปลายทางยอดฮิตที่คอกาแฟนึกถึง เพราะด้วยลักษณะภูมิประเทศที่ราบสูง อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ที่ดินอุดมสมบูรณ์ เหมาะสมแก่การเพาะปลูกต้นกาแฟอย่างสายพันธ์อาราบิก้า 100% ทำให้นักท่องเที่ยวจากหลายๆ ประเทศที่มาประเทศลาวต่างก็ต้องเดินไปจังหวัดปากเซเพื่อลิ้มลองความเข้มข้นนี้กันอย่างล้นหลาม
โดยประวัติความเป็นมาของชื่อเสียงกาแฟในปากเซนั้นเริ่มต้นมาจากในอดีตเมื่อปี พ.ศ. 2533 ชาวลาวได้เริ่มมีการเพาะปลูกกาแฟโดยนำเทคนิคมาจากคนฝรั่งเศส ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เมล็ดกาแฟของที่นี่มีรสชาติและเป็นเอกลักษณ์คือการเพาะปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ไม่มีสารเคมีใดๆ เจือปน จึงเป็นที่มาของผลลัพธ์ความหอมละมุนที่ไม่กระทบต่อเมล็ดกาแฟแต่อย่างใด เพื่อให้รสชาติของกาแฟที่เก็บเกี่ยวนั้นยังคงความเป็นผลผลิตจากธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด
แน่นอนว่าถึงแม้กาแฟจากปากเซจะเป็นผลผลิตที่มาจากทางภาคใต้ของประเทศลาว แต่ด้วยความที่ขึ้นชื่อเรื่องของความอร่อยจึงได้มีการส่งออกไปจำหน่ายทั่วประเทศ รวมไปถึงเมืองหลวงของลาวอย่างในเวียงจันทน์ด้วยเช่นเดียวกัน หากใครที่มีโอกาสได้มาเยือนเวียงจันทน์ล่ะก็ขอแนะนำว่านอกจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง ประตูชัย พระธาตุหลวง หรือวัดวาอารามต่างๆ แล้ว คาเฟ่บรรยากาศดีๆ ในเมืองหลวงนั้นเป็นอีกหนึ่งปลายทางสำคัญที่คุณไม่ควรพลาดแวะไปเช็คอินด้วยเช่นเดียวกัน เพราะนอกจากจะได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแบบคนพื้นเมืองแล้ว คาเฟ่ในเวียงจันทน์บางแห่งยังได้นำกาแฟปากเซมาเตรียมเสิร์ฟให้กับนักท่องเที่ยวถึงที่ เรียกได้ว่ามาถึงเวียงจันทน์เมื่อไหร่ก็สามารถแวะชิมกาแฟจากปากเซไปได้ในคราวเดียวกันโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางลงไปภาคใต้ของลาวแต่อย่างใด หากใครอยากลองแวะมาชิมล่ะก็วันนี้เรามี 2 ร้านคาเฟ่น่านั่งที่ทั้งสองร้านนั้นถึงจะมีการตกแต่งและเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนกัน แต่ขอบอกเลยว่าใช้เมล็ดกาแฟอาราบิก้าชั้นเยี่ยมจากปากเซเหมือนกัน จะมีร้านอะไรบ้างตามมาดูกันเลย
เริ่มต้นลายแทงความหอมกรุ่นกันที่ Elephant Lounge ณ โรงแรมคราวน์ พลาซ่า เวียนเทียน เลานจ์สุดหรูหรา ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ที่รังสรรเมนูเครื่องดื่มต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นค็อกเทลซิกเนเจอร์หรือสตรอเบอร์รี่ มิลค์เชค และที่พลาดไม่ได้คือเครื่องดื่มประเภทกาแฟ ที่ Elephant Lounge นั้นได้ส่งตรงเมล็ดกาแฟชั้นเยี่ยมมาจากปากเซเพื่อพร้อมเสิร์ฟความหอมอร่อยให้กับคอกาแฟทุกคน นอกจากนี้ยังมีเบเกอรี่อบสดใหม่นานาชนิดที่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนภายใต้บรรยากาศดีๆ และของกินอร่อยๆ
ถึงแม้ว่า The Cabana Cafe จะเป็นร้านกาแฟที่เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเรียกลูกค้าแต่อย่างใด เพราะคนท้องที่และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเวียงจันทน์นั้นต่างก็ลิสต์ The Cabana Cafe ให้เป็นหนึ่งในคาเฟ่ที่ต้องแวะมาชิมความอร่อยให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศชิลๆ สไตล์ท้องถิ่นที่ตกแต่งอย่างอบอุ่นด้วยโทนสีขาวน้ำตาลดูเป็นกันเอง มีมุมจิบชากาแฟพร้อมชมวิวเมืองเพลินๆ ทั้งแบบอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ และแน่นอนว่าหากใครได้มาเยือนคาเฟ่แห่งนี้ต้องไม่พลาดเมนูกาแฟสุดฮิตทั้งหลายที่ความหอมกรุ่นทุกแก้วนั้นได้รังสรรค์รสชาติอันล้ำลึกจากเมล็ดกาแฟส่งตรงจากปากเซ และหากได้ดื่มคู่ไปกับการกินเบเกิ้ลแซลมอนครีมชีสแล้วล่ะก็ ขอบอกเลยว่าทุกคำที่ลิ้นได้สัมผัสนั้นจะอร่อยและเพลิดเพลินจนหยุดกินไม่ได้เลยทีเดียว
และอีกหนึ่งร้านน่านั่งตกแต่งสไตล์โมเดิร์นที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อได้มาเยือนเวียงจันทน์คือ DaDa Cafe นอกจากบรรยากาศที่น่านั่งชิลสุดๆ แล้ว เมนูกาแฟของที่นี่ยังมีให้คอกาแฟได้เลือกชิมกันแบบจุใจไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มประเภทร้อนหรือเย็น แถมลูกค้าที่แวะเข้ามาชิมรสชาติความอร่อยที่นี่ยังจะได้เห็นทุกกระบวนการและขั้นตอนการชงกาแฟกันแบบช็อตต่อช็อต (รวมไปถึงบาริสต้าหน้าตาหล่อเหลาเอาการ) ที่คาเฟ่แห่งนี้จึงเป็นเสมือนแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นและคนที่มีไลฟ์สไตล์สุดคูลในเวียงจันทน์ที่นักท่องเที่ยวอย่างคุณต้องแวะมาเปิดประสบการณ์ความประทับใจให้ได้สักครั้งเมื่อมาเยือนเมืองหลวงแห่งนี้
